So What เคล็ดลับสุดยอดของการผสานระหว่างความซับซ้อนในจังหวะและความเรียบง่ายของเมโลดี้
![So What เคล็ดลับสุดยอดของการผสานระหว่างความซับซ้อนในจังหวะและความเรียบง่ายของเมโลดี้](http://www.tomesknives.com/images_pics/so-what-cleland-tips-for-blending-complex-rhythms-and-simple-melodies.jpg)
“So What” ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ไม่เคยล้าสมัยของ Miles Davis นักทรัมเป็ตผู้ยิ่งใหญ่ ผู้บุกเบิกแนวเพลง Modal Jazz “So What” เกิดขึ้นในปี 1959 จากอัลบั้ม Kind of Blue ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในอัลบั้มแจ๊สที่ขายดีที่สุดตลอดกาล
“So What” เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของแนว Modal Jazz ที่ Miles Davis พัฒนามา
Modal Jazz นั้นแตกต่างจาก Bebop Jazz ในสมัยก่อน เพราะไม่เน้นการเล่น improvisation บน progression ของคอร์ด (chord progressions) แบบเดิมๆ มันเน้นไปที่การสร้างบรรยากาศและอารมณ์ผ่านการเลือกใช้ “Modes” หรือ Scale ที่มีความสัมพันธ์กัน
ใน “So What”, Miles Davis และวงดนตรีของเขา (John Coltrane - Saxophone, Cannonball Adderley - Alto Saxophone, Paul Chambers - Bass, Jimmy Cobb - Drums) เล่น improvisation บนสอง Mode หลัก: Dorian และ Phrygian. การเลือกใช้ Mode นี้ทำให้ “So What” มีความรู้สึกที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
การที่ Miles Davis เลือกใช้ Modes แทน chord progressions แบบเดิมๆ ทำให้ “So What” มีความไม่แน่นอนและลึกลับในระดับหนึ่ง
นักดนตรีสามารถ explore melodies ที่หลากหลายได้อย่างอิสระโดยยังคงรักษาความกลมกลืนของเพลงเอาไว้
John Coltrane และ Cannonball Adderley เล่น improvisation บน saxophone ที่โดดเด่นและทรงพลัง ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ฟัง
ส่วน Miles Davis เล่นทรัมเป็ตด้วยน้ำเสียงที่สงัดและมีเสน่ห์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเขา
โครงสร้างของ “So What” ค่อนข้างง่าย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน:
- ส่วนแรก มีความยาวประมาณ 6 นาที Played in D Dorian Mode
- ส่วนที่สอง มีความยาวประมาณ 9 นาที Played in E Phrygian Mode
แม้ว่าโครงสร้างจะเรียบง่าย แต่ “So What” ก็เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความละเอียดอ่อน
Mode | Sound | Description |
---|---|---|
Dorian | Relaxed and melancholic | Often used for ballads and blues |
Phrygian | Dark and mysterious | Gives a sense of tension and unease |
“So What” ไม่ได้มีเพียงแค่ความโดดเด่นทางดนตรีเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในแง่ของประวัติศาสตร์ดนตรีแจ๊สอีกด้วย
มันเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นแรกที่นำเสนอแนว Modal Jazz และมีอิทธิพลอย่างมากต่อนักดนตรีแจ๊สรุ่นต่อมา Miles Davis ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการที่นักดนตรีแจ๊สคิดและเล่นดนตรีไปตลอดกาล
“So What” เป็นเพลงแจ๊สที่ฟังง่าย และสามารถเข้าถึงได้แม้ว่าผู้ฟังจะไม่เคยฟังแจ๊สมาก่อนก็ตาม
มันเป็นตัวอย่างของความเรียบง่ายที่ทรงพลัง ความซับซ้อนที่ลึกซึ้ง และความมีเสน่ห์ของดนตรีแจ๊ส
หากคุณกำลังมองหาเพลงแจ๊สที่เป็นตัวแทนของยุคทองของ Modal Jazz “So What” ของ Miles Davis คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม